post:

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

NTT DoCoMo พร้อมลุยตลาดแท็บเล็ตจีนในญี่ปุ่น


          สำนักข่าวนิกเกอิ (Nikkei) รายงานว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของญี่ปุ่นอย่างเอ็นทีทีโดโคโม (NTT DoCoMo) กำลังจะเริ่มทำตลาดแท็บเล็ตราคาประหยัดอย่างจริงจังในประเทศญี่ปุ่น
ขีดเส้นราคาจำหน่ายระหว่าง 10,000-15,000 เยน หรือประมาณ 3,400-5,000 บาท สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์หน้าจอสัมผัสพกพาที่เอ็นทีทีโดโคโมจะเริ่มทำตลาดในกลุ่มผู้นิยมสินค้าราคาไม่แพงนั้นอาจเป็นสินค้าจากบริษัทหัวเว่ยของจีน (Huawei Technologies) คาดว่าจะประเดิมลุยตลาดด้วยรุ่นหน้าจอ 10 นิ้ว แม้จะยังไม่มีการระบุรุ่น แต่รายงานย้ำว่าแท็บเล็ตราคาประหยัดของหัวเว่ยนี้จะสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ผ่านเครือข่ายข้อมูลไร้สายหรือไวร์เลสแลน (Wireless LAN) แต่ไม่สามารถรองรับเครือข่าย 3G หรือบริการ 4G LTE (Long Term Evolution) ซึ่งเป็นบริการเครือข่ายข้อมูลโทรศัพท์มือถือความเร็วสูงพิเศษสำหรับอนาคต ทั้งหมดนี้ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญของบริษัทหัวเว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมจากจีนที่ครองตลาดทั้งอุปกรณ์ติดตั้งซิมการ์ดเพื่อรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (dongle), ตลาดโทรศัพท์มือถือ และล่าสุดคือตลาดแท็บเล็ตซึ่งมีการสำรวจมากมายฟันธงว่าเป็นตลาดที่จะเติบโตเร็วที่สุดในช่วงปี 2013 รายงานระบุว่า สินค้าแรกของหัวเว่ยที่ถูกวางตัวไว้สำหรับบุกตลาดญี่ปุ่นจะเริ่มประเดิมตลาดช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ โดยนอกจากจะวางจำหน่ายในร้าน DoCoMo Shop ยังจะวางจำหน่ายตามร้านค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นด้วย การปูทางในตลาดแท็บเล็ตราคาประหยัดนี้ถูกมองว่าจะสร้างผลกระทบให้แอปเปิล (Apple) ผู้สร้างไอแพด (iPad) ซึ่งจะได้พบกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากผู้ผลิตแท็บเล็ตหลากหลาย โดยไม่เพียงแท็บเล็ตราคาประหยัด แต่ผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มระดับราคาเท่ากันอย่างแท็บเล็ตกาแล็กซีของซัมซุง (Samsung) และเซอร์เฟซของไมโครซอฟท์ (Microsoft) ก็พยายามสรรหากลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับไอแพดอย่างจริงจังเช่นกัน สำหรับความคืบหน้าของแอปเปิลในตลาดแท็บเล็ต ก่อนหน้านี้แอปเปิลพยายามตอบความต้องการของผู้ใช้ที่กำลังเริ่มเบนเข็มไปยังตลาดแท็บเล็ต 7 นิ้วด้วยการเปิดตัวไอแพดมินิ (iPad mini) เพื่อแข่งขันกับอเมซอนดอตคอม (Amazon.com Inc) ที่ทำตลาด Kindle อย่างต่อเนื่อง รวมถึงกูเกิล (Google) ที่เปิดตัว Nexus 7 ออกมาทำตลาดในฐานะอาวุธ

CREDIT: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000008727

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น